วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บทความให้กำลังใจ

The best way
To cheer yourself up
Is to cheer everybody else up
( mark twain )

วิธีที่จะปลุกปลอบใจให้เบิกบานขึ้นได้
ก็คือการปลุกปลอบให้กำลังใจคนอื่นๆ

ใน 1 ปีมีฤดูที่แตกต่าง บางฤดูฝนพรำจนหัวใจเปียกปอน
บางฤดูลมหนาวบาดใจจนเจ็บร้าว แต่ในที่สุดก็มีฤดูที่ฟ้าใส
ทะเลสวย มี ฤดูที่ดอกไม้บานสะพรั่ง มีฤดูที่แสงแดดอบอุ่น
และว่าวลอยเต็มฟ้า ชีวิตคนเราก็มีฤดูกาลที่แตกต่าง
เรา จะผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายได้ไม่ยาก หากเรามี
ความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม เรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน รู้ดีว่าเรา
จะก้าวไปทางใด รู้ความต้องการของเราเอง รู้ว่ากำลัง
จะทำอะไร และเรามีพลังใจอย่างเต็มเปี่ยมเพียงใด

อย่า เป็นกังวลอะไรนักกับภาพลักษณ์ หรือสิ่งที่คนอื่นจะ
มองเราว่าเป็นอย่างไร จงทำในสิ่งที่เป็นตัวเราเองจริงๆ
แล้วพอใจกับมัน มากกว่าที่จะคิดทำอะไร เพียงเพื่อคาดหวัง
ให้คนอื่นมองเราในแง่ดี

หนทางที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขความทุกข์ในใจ คือ
พยายามหาอะไรทำให้ชีวิตยุ่งเหยิงเข้าไว้

ตื่น นอนตอนเช้าพร้อมกับแผนการดีๆ ในวันนั้นแล้วทำ
ทุกอย่างอย่างใส่ใจ อย่างมีสมาธิ และมีความพึงพอใจตลอดวัน
แล้วก็หลับตานอนพร้อมกับความสุขใจ ที่ได้ทำทุกอย่างอย่างดี
ที่สุดแล้ว เพียงแค่นี้คุณก็ไม่มีเวลาจะไปนั่งอมทุกข์แล้วล่ะ

ใน เมื่อสิ่งที่คาดหวังยังไม่เป็นไปตามที่มุ่งมาดปรารถนา
เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้กับสิ่งเดิมๆ แล้วลองเริ่มต้น
กับสิ่งใหม่ ที่จะเป็นไปได้ง่ายกว่า และใกล้มือกว่าที่เคยหวัง

ความ หวาดกลัวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เราจมอยู่กับความรู้สึก
ทุกข์เศร้า จนไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร และไม่กล้าเริ่มต้นใหม่
ซึ่งภาวะเช่นนี้ เป็นเรื่องเจ็บปวดมากยิ่งกว่าสภาวะที่เป็นอยู่เสียอีก

การที่คนอื่นๆ มีความสุขกว่าเรานั้น มิใช่เพราะเขาหัวเราะ
เสียงดังกว่าเรา แต่เป็นเพราะเรามัวแต่อยากร้องไห้ และ
ไม่ยอมเปล่งเสียงหัวเราะอย่างเขาเท่านั้น

หน้า ที่การงานจะไม่ใช้เรื่องที่ทำให้เราเหนื่อยและท้อเลยถ้าเรา
เติมความรักและความรู้สึกสนุก ใส่ลงไปในขณะปฏิบัติงานด้วย
บางเวลาแม้มันจะหนักหนาจนเครียดบ้าง แต่ถ้าเรามีจุดหมายที่
ชัดเจน มีการวางแผนที่ดีและมีความรับผิดชอบที่เต็มที่ ปัญหา
ที่รบกวนจิตใจก็จะมีน้อยลง เพราะเราจะสามารถจัดการทุกอย่างได้
โดยไม่เห็นว่ามันเป็นภาระอันหนักหน่วงเลยแม้แต่น้อย

ชีวิต คนควรมีช่วงที่หยุดพักบ้าง ถ้ารู้สึกเหนื่อย ท้อหรือมีทุกข์
ที่ใจ การหยุดพักสักครู่ไม่ทำให้ชีวิตถอยหลัง แต่การดันทุรังสู้
ไปในขณะที่ไร้เรี่ยวแรงนั้น จะทำให้ย่ำแย่ยิ่งกว่า

เมื่อไปทางเดิมไม่ได้ ก็ให้เปลี่ยนเส้นทางใหม่ อย่าอ้างว่า
ชีวิตของคุณไม่มีทางเลือก เพราะความจริงแล้ว ชีวิตมีทางเลือก
ให้คุณเสมอ เพียงแต่ว่าคุณไม่กล้าพอที่จะเลือกทางอื่นๆเท่านั้นเอง

ถ้ามีโอกาสที่จะบอกใครสักคนว่าเรารักเขา ก็จงบอกเถิด
ถ้ามีโอกาสแสดงความรักความห่วงใยให้ใคร ก็อย่าละเลย
โอกาสนั้น การจะถูกรักตอบหรือไม่ ไม่ใช้เรื่องสำคัญ
ความรักเป็นความงดงาม ที่เราไม่จำเป็นต้องอับอายหรือกลัว
เสียศักดิ์ศรีแต่อย่างใด

ตัดสินใจให้ดีก่อนที่จะทำในเรื่องสำคัญ ซึ่งมีผลเกี่ยวพัน
ทางกฎหมาย เช่น การช่วยเหลือใครโดยการค้ำประกัน การ
ให้ยืมเงินเป็นจำนวนมาก หรือการร่วมเข้าหุ้นกับใคร แม้จะ
เป็นคนกันเอง แต่ควรพิจารณาให้รอบคอบ วันหนึ่งหากเกิด
ปัญหาแล้วมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล ชีวิตจะยุ่งเหยิงและเป็นทุกข์
มากกว่าเวลาที่ยอมปฏิเสธเพื่อนไป

ไม่ ต้องใส่ใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของใครๆ เราต้องรู้จักวางเฉย
แม้จะรู้สึกโกรธหรือเสียใจ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวิ่งไป
ตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลายทั้งปวงได้ ควรให้เวลาเป็น
เครื่องพิสูจน์การกระทำที่ดีและสม่ำเสมอ ย่อมจะแสดงตัวออกมา
ได้ชัดเจนกว่าคำวิจารณ์ใดๆ ในวันหนึ่งอย่างแน่นอน

คำพูดที่อ่อนโยน ความคิดที่งดงาม สามารถชุบชูใจให้ผู้อื่น
รื่นรมย์ได้ และยังช่วยสมานใจเราเองให้คลายจากความปวดร้าวทั้งปวง
บาง วันอาจมืดมนราวกับมีเมฆฝนครึ้มท้องฟ้า อยู่ในชีวิตของคุณ
เต็มไปหมด แต่เราสามารถทำให้มันสดใสและสว่างขึ้นมาได้มิต้อง
ไปแสวงหาดวงตะวันที่ไหน จิตใจของคุณนั้นแหละคือดวงตะวัน
แค่ทำให้มันสดใสขึ้นมาให้ได้เท่านั้น
เขียน ถ้อยคำอบอุ่นแสดงความคิดถึง หรือความยินดีในวาระ
โอกาสใดก็ได้ส่งให้เพื่อนเก่า คนรู้จักคุ้นเคยกันหรือแม้แต่ญาติ
ผู้ใหญ่ ส่งความรู้สึกดีๆ ผ่านถ้อยคำถึงผู้อื่นแล้วจิตใจของคุณ
จะสบายขึ้นเอง
อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง แบ่งปันหัวใจไปห่วงใยอาทรคน
อื่นๆดูบ้าง คนรอบข้างของคุณคงมีสักคนที่เขากำลัง
ทุกข์ร้อนหรือเศร้าโศก อาทรเขา ปลอบโยนเขา แม้จะ
ช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก ขอเพียงแค่แสดงความเป็น
ห่วงเขาอย่างจริงใจก็เพียงพอแล้ว
ลองไปตามสถาบันคนตาบอด แล้วอาสาเป็นผู้อ่านหนังสือ
ใส่เทปไว้ให้คนตาบอดฟัง ทำอะไรที่ดีและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
บ้าง แล้วความรู้สึกไม่ดีในใจจะเลือนจางโดยไม่ต้องนั่งกังวลว่า
จะจัดการกับความทุกข์ของตนอย่างไร


ขอบคุณเครดิต///www.umarin.com

บทความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

การ Low-level Format และ High-level Format
การ Low-lovel Format เป็นกระบวนการทำงานของฮาร์ดดิสก์โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหรือกำหนด Track, Sector หรืออธิบายได้อีกอย่างว่าเป็นการเขียนโครงสร้างของ Track,Sector ตามรูปแบบที่ Firmware ภายในฮาร์ดดิสก์ได้กำหนดไว้ เพื่อให้การทำงานของกลไกภายในกับวงจรควบคุมหรือ PCB สอดคล้องเป็นระบบเดียวกัน ซึ่งการ Low-level Format นั้นเป็นการลบข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่าง โดยที่ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกลบไปอย่างถาวรจริง ๆ ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจกันเสียก่อนว่า การ Low-level Format นั้น เป็นกระบวนการทำงานหรือเป็นคำสั่งของฮาร์ดดิสก์รุ่นเก่า ที่ยังใช้ Actuator แบบ Stepper Motor ,ใช้ระบบ Servo เก่า ๆ แบบ Dedicated Servo, มีการใช้โครงสร้างของ Track, Sector แบบเก่า ซึ่งฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่และไม่เหมือนกันเลย การใช้ Stepper Motor เป็น Actuator ของฮาร์ดดิสก์รุ่นเก่า ๆ นั้น มีข้อเสียหรือจุดอ่อนตรงที่เมื่อเราใช้ไปนาน ๆ เฟืองกลไกภายใน Motor จะหลวม ทำให้การควบคุมให้หัวอ่าน/เขียนอยู่นิ่ง ๆ บน Track (ที่จะอ่านข้อมูล)เป็นไปได้ยาก และอีกสาเหตุที่กลไกหลวม ก็เพราะอุณหภูมิที่สูงซึ่งเกิดจากการที่ตัว Actuator เคลื่อนที่ไปมาเพื่อหาข้อมูล แน่นอนครับ มันเป็นโลหะที่ต้องมีความร้อนเกิดขึ้น เปรียบเทียบก็เหมือนกับ Ster รถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์ ที่ต้องรูด เมื่อเจอกับโซ่ที่ลากผ่านไปมาเป็นเวลานาน ๆ และก็เป็นสาเหตุให้หัว/อ่านเขียน ไม่สามารถอ่านข้อมูลได้อย่าง ถูกต้อง ยิ่งนับวันอาการก็จะรุนแรงมากขึ้น อีกประการหนึ่งที่การ Low-level Format ไม่สามารถนำมาใช้กับ ฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ได้ก็เพราะโครงสร้างการจัดวาง Track, Sector ไม่เหมือนกัน ฮาร์ดดิสก์รุ่นเก่าจะมีจำนวนของ Sector ต่อ Track คงที่ ทุก ๆ Track แต่ในฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ จำนวนของ Sector จะแปรผันไปตามความยาว ของเส้นรอบวง (ของ Trackนั่นแหละครับ) ยิ่งต่างรุ่นต่างยี่ห้อต่างความจุ ก็ยิ่งต่างไปกันใหญ่ หากเราฝืนไป Low-level Format ผมบอกตรง ๆ ครับว่านึกไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฮาร์ดดิสก์อาจไม่รับคำสั่งนี้เพราะ ไม่รู้จักหรืออาจรับคำสั่งแล้วแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร จนอาจจะทำให้วงจรคอนโทรลเลอร์ (PCB) สับสนกันเอง (ระหว่าง IC) จนตัวมันเสียหายก็ได้ แต่ถ้าฮาร์ดดิสก์ของเพื่อนท่านใดเป็นรุ่นเก่า ซึ่งมีลักษณะตรงกับที่ผมเอ่ยมา และมี BIOS ที่สนับสนุนก็สามารถ Low-level Format ได้ครับ (เช่น คอมฯ รุ่น 286 ของผม Hdd 40MB.) เราจะเห็นได้ว่า BIOS รุ่นใหม่จะไม่มีฟังก์ชั่น Low-level Format แล้ว เพราะ BIOS ก็ไม่อาจที่จะรู้จักโครงสร้าง Track, Sector ของฮาร์ดดิสก์ได้ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นเพราะความต่างอย่างที่ผมบอกไว้ละครับ กลับมาสู่ความจริงของความรู้สึกเรากันหน่อยนะครับ ซึ่งผมเข้าใจดีว่า เพื่อน ๆ ทุกคนหากเมื่อเจอ Bad Sector ในฮาร์ดดิสก์ของตัวเองย่อมใจเสียแน่นอน เพราะข้อมูล ที่อยู่ข้างในนั้นมีผลกับจิตใจ กับความรู้สึกของเรามาก และเราต้องการที่จะได้มันคืน และในตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิด ถึงด้วยซ้ำว่าเราซื้อมันมาแพงแค่ไหน และถ้าหากเราได้ยิน ได้ฟังอะไรที่เล่าต่อกันมาว่า มันสามารถที่จะทำให้ฮาร์ดดิสก์ของเราดีเช่นเดิมได้ เราย่อมให้ความสนใจ อยากลอง อยากได้ อยากมี แต่เพื่อน ๆ ครับ อย่างที่ผมบอกละครับว่าการ Low-level Format นั้นใช้ไม่ได้กับฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ ๆ ตัวผมเองก็เป็น Salary Man หรือมนุษย์ เงินเดือนเหมือนเพื่อน ๆ ละครับ ผมรู้สึกเสียดายเป็นเช่นกัน แต่เมื่อผมมาถึงจุด ๆ หนึ่งที่รู้ว่าเราไม่สามารถเอา สนามแม่เหล็กมาเรียงให้ดีเหมือนเดิมได้ และไม่มีเครื่องมืออะไรที่จะมาช่วยได้ด้วย ผมก็ต้องปลง และถนอมมัน ให้ดีที่สุด เอาละผมขอพากลับมาที่เนื้อหากันต่อนะครับ
การ High-level Format หรือการ Format (หลังจากการแบ่ง Partition แล้ว) ที่เราเรียกกันอยู่บ่อย ๆ โดยใช้ DOS นั้นมีจุดประสงค์เพื่อทำการเขียนโครงสร้างของระบบไฟล์ (FAT: File Allcation Table ซึ่งมีทั้ง FAT32 และ FAT16) และเขียน Master Boot Record (ซึ่งเป็นพ.ท.ที่จะเก็บแกนหลักของระบบปฏิบัติการเช่น DOS) การ Format นี้นั้นฮาร์ดดิสก์จะไปลบ FAT และ Master Boot Record ทิ้งไป แต่มันไม่ได้ทำการลบทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนดังเช่นเรากวาดของบนโต๊ะทิ้งไปจนเหลือแต่พื้นเรียบๆ มันแค่ทำการเขียนข้อมูล "0000" ลงไปบนแผ่นดิสก์ เท่านั้น ซึ่งคำว่า "เขียนข้อมูล 0000 ก็คือการFormat ของเรานั่นแหละครับ" ดังนั้นหากใครคิดว่าการ Format บ่อย ๆ นั้น ไม่ดีก็... (ผมขอไม่ตอบเพราะมันเป็นเรื่องนานาจิตตังครับ) เพื่อน ๆ บางคนถามในกระทู้ว่า Virus ทำให้เกิด Bad Sector ได้หรือไม่ ผมขอตอบว่าไม่ แต่มันทำให้ ฮาร์ดดิสก์เสียได้ครับ เพราะการที่มันเข้าไปฝังที่ Master Boot Record ครับ ก็ต้องแก้กันโดยการ Fdisk กำหนด Partition กันใหม่ และVirus ก็เป็นเพียงแค่ข้อมูล ๆ หนึ่งที่เราจะลบทิ้งไปก็ได้ และ Virus จะเข้าไปใน Firmware และSystem Area ของฮาร์ดดิสก์ก็ไม่ได้เด็ดขาด เพราะ Firmware ของฮาร์ดดิสก์จะไม่ยอมให้แม้กระทั่ง BIOS ของคอมฯเห็น Cylinder นี้ซึ่งเสมือนว่า Cylinder นี้ไม่มีอยู่จริง การที่ฮาร์ดดิสก์พบ Bad Sector นั้น มันจะทำการทดลองเขียน/อ่านซ้ำ ๆ อยู่พักหนึ่งจนกว่าจะครบ Loop ที่ กำหนดแล้ว ว่าเขียนเท่าไหร่ก็อ่านไม่ได้ถูกต้องซักที ฮาร์ดดิสก์ก็จะตีให้จุดนั้นเป็นจุดต้องห้ามที่จะเข้าไปอ่านเขียนอีก แต่ถ้าข้อมูลสามารถกู้คืนมาได้มันก็จะถูกย้ายไปที่ ๆ เตรียมไว้เฉพาะ เมื่อฮาร์ดดิสก์ตีว่าจุดใดเสียแล้วมันจะเอาตำแหน่งนั้นไปเก็บที่ System Area ซึ่งข้อมูลที่บอกว่ามีจุดใดที่เสียบ้างนั้นจะถูกโหลดมาทุกครั้งที่ฮาร์ดดิสก์ Boot และเราไม่สามารถเข้าไปแก้ข้อมูลนี้ได้ด้วยครับ Norton ก็ทำไม่ได้ สิ่งที่มันทำ ก็ทำได้แค่ Mark ไว้แล้วก็เก็บข้อมูล นี้ไว้ จากนั้นก็ทำเหมือนกับที่ Firmware ฮาร์ดดิสก์ทำ คือไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พ.ท.นี้อีก หรือหลอกเราว่าไม่มี พ.ท.เสีย เกิดขึ้นเลย การ Format ด้วย DOS ก็แก้ไขไม่ได้เช่นกันครับ เพื่อน ๆ บางคนคิดว่าหากมี Bad Sector แล้วมันจะขยายลุกลามออกไป ผมขอตอบว่าไม่จริงครับ เราไม่ควรลืม ว่า บนแผ่นดิสก์นั้นคือสารแม่เหล็กที่ฉาบอยู่ และมันหลุดได้ยาก ต่อให้หลุดแล้วก็ลามไม่ได้ด้วยนะครับ ไม่เหมือน กับโรคผิวหนังครับ ผมขอจบลงเท่านี้ละครับ Bye Bye. จากคุณ : bhandhep_c@hotmail.com [15 ก.ค. 2543 - 23:49:47]
การซ่อมฮารด์ดิสก์ โดยแก้ไขไม่ให้มี Bad Cluster หรือ Bad Sector
ผมขอชี้แจงเรื่อง การซ่อมฮารด์ดิสก์ โดยแก้ไขไม่ให้มี Bad Cluster หรือ Bad Sector ให้เพื่อน ๆ เข้าใจสักหน่อยนะครับว่า การที่ฮารด์ดิสก์มี Bad Cluster หรือ Bad Sector นั้น เราไม่สามารถที่จะแก้ไขไม่ให้มันหายไปได้ เพราะการทำงานของ Firmeware ในฮารด์ดิสก์จะกำหนดไว้ว่า ถ้าหากหัวอ่าน/เขียนของมัน พบปัญหา เช่นอ่านแล้วข้อมูลไม่ถูกต้อง และวงจรตรวจสอบที่อยู่บน PCB มันใช้ ECC หรือ CRC หรือ Read Retry (หรือวิธีอื่น ๆ ที่แล้วแต่เทคโนโลยีของ บ. ผู้ผลิต) เข้ามาช่วยแล้วแต่แก้ไขไม่ได้ ฮารด์ดิสก์จะตีว่า พ.ท.นั้นเป็น Defect หรือกำหนดให้เป็นจุดเสียที่มันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก และข้อมูลที่เอาไว้บอกตัวฮารด์ดิสก์เองว่าจุดใดบ้างที่เสียนั้น จะเก็บไว้ที่ System Area ซึ่งเป็น Cylinder ที่เราจะเข้าไปแก้ไขข้อมูลในจุดนี้ไม่ได้เลย เพราะเป็น Cylinder ที่ฮารด์ดิสก์กันเอาไว้ให้ตัวของมันเองโดยเฉพาะ และทุกครั้งที่ฮาร์ดดิสก์บูตมันจะต้องเข้าไปอ่านข้อมูลที่ System Area แล้เอามาเก็บที่ Ram เพื่อที่จะบอกกับตัวมันเองว่ามี พ.ท. ตรงไหนบ้างที่ห้ามเข้าไปอ่าน/เขียน การที่จะเข้าไปแก้ข้อมูลในจุดนี้ต้องใช้เครื่องที่โรงงานผู้ผลิตนั้นออกแบบมาโดยเฉพาะ และต่อให้เราเข้าไปแก้ได้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะ พ.ท.ตรงนั้นอาจมีสิ่งสกปรกติดอยู่ หรือสนามแม่อาจถูกกระทบกะเทือนจนหลุดออก ซึ่งเป็นชิ้นเล็กที่ตาเปล่ามองไม่เห็น และในความเป็นจริงยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกมากที่ทำให้เกิด Bad Cluster หรือ Bad Sector ก็ตามแต่จะเรียก สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ ห้ามกระแทกฮารด์ดิสก์แรง ๆ ไม่ว่ามันจะทำงานอยู่หรือไม่ก็ตาม และเมื่อคุณจับมันก็ไม่ควรจับที่ PCB เพราะไฟฟ้าสถิตย์ในตัวเราอาจวิ่งไปยังวงจรที่ PCB แล้วทำให้ IC เสียหายได้ และจุดนี้เองที่ร้านที่ทำให้เกิดร้านรับซ่อมฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเขาเพียงแค่อาศัยการเปลี่ยนแผ่น PCB ที่ประกบอยู่โดยการหารุ่นและยี่ห้อที่ตรงกันมาเปลี่ยน ง่าย ๆ เท่านี้เอง และการที่เราคิดว่าแผ่นดิสก์ภายในมีรอยก็น่าจะเปลี่ยนได้ ผมขอบอกเพื่อน ๆ ว่าเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะเปิด Cover หรือผาครอบมันออกมาแล้วเอาแผ่นใหม่ใส่เข้าไป เพราะบนแผ่นดิสก์ทุกแผ่นและทั้งสองด้านของแผ่นจะมีสัญญาณ Servo เขียนอยู่ ซึ่งสัญญาณนี้จะถูกเขียนในลักษณะตัดขวางเหมือนกับการแบ่งเค้กกลม ๆ ออกเป็นส่วน ๆ โดยที่สัญญาณนี้จะต้องตรงกันทุกแผ่นจะวางเยื้องกันไม่ได้เลย เพราะเครื่องเขียนสัญญาณกำหนดให้ต้องตรงกัน ซึ่งผมขอเปรียบเทียบกับล้อรถยนต์ที่ต้องมีจุ๊บเติมลม ที่เราต้องเอาจุ๊บของล้อทุกล้อมาวางให้ตรงกันเพื่อที่จะบอกให้ PCB ได้รับทราบว่าจุดเริ่มต้นของดิสก์หรือ Sector 0 หมุนไปอยู่ที่ใดบนแผ่นดิสก์ และสัญญาณนี้ไม่สามารถมองให้ได้ด้วยตาเปล่าต่อให้เอากล้องจุลทรรศมาส่องก็ไม่เห็น การที่เราจะจับฮารด์ดิสก์ให้มีความปลอดภัยนั้นตัวเราต้องลงกราวนด์ นั่นคือเท้าเราต้องแตะพื้นให้ไฟฟ้าสถิตย์จากตัวเราไหลลงพื้นดิน เพื่อน ๆ อาจนึกไม่ถึงว่ามันจะมีผลมากถึงขนาดว่าทำให้ฮารด์ดิสก์เสีย แต่เราอย่าลืมว่ากิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราไปจับโลหะอะไรมาบ้างแล้วมันถ่ายเทประจุให้เราเท่าไหร่,จะมีผลต่อสิ่งอื่น ๆ ไหมเราไม่รู้เหมือนกับรถบรรทุกขนถ่ายน้ำมัน ที่เวลาวิ่งต้องเอาโซ่ลากไปตามถนนเพื่อระบายประจุ หรือทำให้เกิดความต่างศักย์น้อยที่สุด หรือเป็นศูนย์เพราะมันอันตรายมากที่เวลาเอาหัวจ่ายน้ำมันรถไปต่อกับวาลว์รับน้ำมัน ซึ่งอาจเกิดประจุไฟ้ฟ้าวิ่งจากศักย์สูงไปศักย์ต่ำแล้วเป็นประกายไฟ เพราะเวลารถวิ่งไปชนอากาศที่มีประจุลอยอยู่มันก็จะสะสมไปเรื่อย ๆ ผมอยากบอกกับเพื่อน ๆ ว่าผมก็เสียดายมาก ๆ หากฮารด์ดิสก์ของผมเกิด Bad Sector ขึ้นมาแต่ก็ต้องทำใจยอมรับ เนื่องจากมันแก้ไขไม่ได้จริง ๆ ต่อให้เอาเครื่องมือในโรงงานมากองต่อหน้าผมแล้วให้ผมอยู่ใน Clean Room ผมก็ทำไม่ได้ (ยกเว้นนั่งรื้อชิ้นส่วนออกหมดแล้วเอาแผ่นดิสก์ใหม่มาใส่เพราะเครื่องเขียน Servo อยู่ในนั้น) แต่การที่เราจะเลี่ยงไม่ใช้ พ.ท.ที่เสียอยู่ในตอนอื่น ๆ ของข้อมูลนั้นก็ทำได้เช่นแบ่งพาร์ทิชั่นออกเป็นส่วน ๆ โดยให้พาร์ทิชันที่เราไม่ต้องการครอบตรงจุดเสียไว้ หรือถ้าหากเราต้องการกู้ข้อมูลที่มีความสำคัญมาก ๆ ก็ต้องใช้ Software ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เช่น Spinrite หากถามว่าทำไม บ.ผู้ผลิตไม่ออกแบบให้ฮาร์ดดิสก์แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเสียก่อน หรือให้มันสามารถกู้ข้อมูลได้เล่า คำตอบก็เป็นเพราะมันทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น, และทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตหรือกว่าที่จะออกจำหน่ายได้ช้าออกไปอีก ,ทำให้ความเร็วในการทำงานลดลงด้วย และมีอีกหลาย ๆ อย่างที่ผมพิมพ์ไม่ไหวแล้ว ผมหวังว่าการที่ผมบอก Email Address ไว้นั้นจะทำให้เนื้อหานี้มีความน่าเชื่อถืออยู่บ้างนะครับ Bye Bye.